วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

บทความที่น่าสนใจ

ความรักและความผูกพันที่มีต่อสายใยรัก สายโลหิตของชาวอีสานนั้น ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงกล่อมลูกที่น่าประทับใจ เมื่อยามที่แม่ต้องอุ้มกระเตงลูกออกไปทำไร่ไถนา ผูกอู่นอนของลูกใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือเถียงนา หรือเมื่อยามที่อยู่ในหมู่บ้าน ใต้ถุนบ้านของชาวอีสานจะเป็นที่รวมของการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการงานทอผ้า จักสาน และเลี้ยงลูกหลาน เสียงเพลงกล่อมลูกที่ดังแว่วออกมาจากแต่ละถิ่นที่ ย่อมแสดงถึงความรักความผูกพันของแม่ที่มีต่อลูก
เพื่อสืบสานตำนานรักของบรรพบุรุษให้ยังคงอยู่สืบไปจึงขอนำเสนอเนื้อหาบทเพลงกล่อมลูกจากศิลปินพื้นบ้าน 3 ท่าน คือ จากจังหวัดอุบลราชธานี 2 สำนวนได้แก่ เพลงแม่หม้ายกล่อมลูก ของ หมอลำฉวีวรรณ ดำเนิน และเพลงแม่หม้ายกล่อมลูก ของ นางบุปผา สีตะวัน และจากจังหวัดนครราชสีมา เพลงกล่อมลูกโคราช ของนางรำไพ เสริมรำ ถ้าท่านใดมีสำนวนจากจังหวัดอื่นๆ ในอีสานโปรดแนะนำด้วยครับ

เพลงแม่หม้ายกล่อมลูก
นางฉวีวรรณ ดำเนิน (พันธุ)
นอนสาหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนอู่แก้วนอนแล้วแม่สิกวย นอนสาหล่ากัลยาน้อยอ่อน แม่สิสอนลูกแก้วจอมสร้อยให้ค่อยฟัง เป็นคนนี่ยำเกรงผู้ใหญ่ คารวะละผู้เฒ่าผ่านใกล้หมอบคลาน หย่างใกล้เผิ่นให้เจ้าเอิ้นขอทาง เผิ่นเอิ้นขายเจ้าอย่าได้เว้าหยาบ เป็นคำบาปบ่จบบ่งาม กริยาเลวทรามขายหน้าพ่อแม่ ลูกขี้แพ้พ่อแม่อยากอาย เกิดเป็นชายวิชาเป็นทรัพย์ เผิ่นจั่งนับถือหน้าถือตา บรรพชาสมบทคือบวช ให้หมั่นกวดศึกษาเล่าเรียน การทำเพียรกำจัดกิเลศ บ่เป็นเหตุเสียชาติตระกูล ลูกหล่าแม้ให้มีใจกรุณา ใจเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คนดีแม่ให้มีใจก้วงขวง คนทั้งปวงละสิยอยกเจ้า ยามกินเข้าให้คิดถึงคุณควาย พระอิศวรเผิ่นจึงมาผายโผด บ่เป็นโทษกายวาจาใจ เว้านำไผเผิ่นก้อชมชื่น ไปบ้านอื่นสิมีผู้บูชา เทวดารักษาปกป้อง ฝูงพี่น้องยอย่องสรรเสริญ อื้อ ฮือ อือ อื้อฮือ อือ ฮือ อื้อ อือ ...
เจ้าหากแม่นหลานปู่ละคนฮู้ผู้ดี แนวเศรษฐีลังกามาเกิด ผู้ประเสริฐโตเจ้าจงนอน ให้เจ้าฟังคำสอนละพุทโธโอวาท ฝูงนักปราชญ์เอิ้นผู้ฟังธรรม รัตนังอุควรคำมาก เหตุยุ่งยากนอนแล้วบ่หนี สวัสดีนอนหลับคนตื่น คันบวชเข้าในศาสนา เป็นบุญญาถมคุณพ่อแม่ พ่อแม่เฒ่าให้เลี้ยงรักษา ยามเพิ่นมรณาทำบุญส่งให้ ลูกจึงได้ซื่อว่าคนดี เอ่อ เอ้อ เออ เอ้อ เอ่อ เออ... อื้อ อือ อือม์
นอนสาเด้อหล่าหลับตาแม้สิกล่อม แม่สิไปเข็นฝ้ายเดือนหงายเว้าผู้บ่าว แม่สิเอาพ่อน้ามาเลี้ยงให้ใหญ่สูง แนวโตเป็นกำพร้าอนาถาบ่มีพ่อ ทุกข์แท้น้อลูกแก้วแนวเจ้าพ่อบ่มี พ่อตายแล้วซิ่นแม่ขาดคาขา พ่อตายแล้วนาก็ขาดเข้าบ่มีเสาสิค้ำขื่อแม่เด้ ความทุกข์มาสู่มื้อลุงป้าบ่ว่าดี ตั้งแต่ก่อนก่อนกี้ตั้งแต่พ่อเจ้ายังมี ไผก็ดีปานหยังหมู่ฝูงลุงป้า อาว์อาพร้อมถนอมดีเกื้อกล่อม พ่อบ่มีเพิ่นบ่เว้าลุงป้าบ่ว่าหลาน
พริกกะอยู่เฮือนเหนือ เกลือกะอยู่เฮือนใต้ หัวสิงไคอยู่บ้านเผิ่น ขึ้นเฮือนลุงเพิ่นก็เว้า ขึ้นเฮือนอาว์เพิ่นก็เว้า ขึ้นเฮือนย่ากะบ่ได้กลัวย่านแต่แก่มกิน นอนสาหล่านอนอู่สายปอ นอนกะทอ ยาฮ้างสงนางบ่มีพ่อ เชือกอู่ขาดฮ้อยต่อบ่ติดกัน แม่นไผน้อสิมาฝั้นเลนปอเป็นเชือกอู่ ลูกแม่เอย นอนสาหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนอู่ฝ้ายป้ายใส่อู่ไหม นางสายใจนอนสาเจ้าอย่าตื่น ฮอดมื้ออื่นยามเซ้าแม่สิไป แม่สิไปหาไม้หลัวฟืนคั่นมาผ่า เพราะแม่เป็นแม่ฮ้างผัวสิเลี้ยง... แม่นบ่มี ผัวซิซ้อน แม่นบ่มี... เอ้ย.... นอ

เพลงแม่หม้ายกล่อมลูก
นางบุปผา สีตะวัน
เอ่อ... เออ... เออ... นอนสาหล่า หลับตาแม่สิกล่อม นอนตื่นแล้วสิเอาแก้วใส่มือ อือ.. อือม์.. เออ ฮือ อือ... นอนสาหล่า หลับตาแม่สิกล่อม แม่ไปไฮ่สิปิ้งไก่มาหา แม่ไปนาสิปิ้งปลามาป้อน แม่เลี้ยงม่อนให้นอนอู่สายไหม อือ.. อือม์.. เออ ฮือ อือ... นอนสาหล่าหลับตาอย่าฟ้าวตื่น แม่สิขึ้นโคกคอยเก็บผักหวานมาแลกเข้า เอาหน่อไม้แลกเข้าเผิ่น สิหาเงินมาเลี้ยงเจ้า ถนอมไว้ให้ใหญ่สูง อาว์ อา ลุง น้า ป้า เหลียวหาบ่เอิ้นใส่ ย้อนนางทุกข์ยากไฮ้ ลุงป้าเผิ่นกะซัง เสียใจเด้เฮือนกะเพพอลี้อยู่ มีบ่มีเข้าอยู่ท้องสินอนลี้อยู่จั่งใด๋ เหลือใจเด้นอหล้า คำแพงบ่มีพ่อ มีแต่แม่ค้อม่อ ทอนท่อพ่อบ่มี สี่ปีนอหล่าพ่อไปค้าบ่คืนหลัง ไปหวั่งๆ ตายยังบ่ได้ข่าว ถิ้มนางเลี้ยงลูกน้อย ถิ้มนางเลี้ยงลูกน้อย ทอนท่อพ่อบ่มี... นอ
เอ้อ เหอ เออ กะ เหอ เอ้อ เหอ เออ นอนสาหล่า หลับตาแม่สิกล่อม แม่ไปไฮ่กะเห็นไก่เขี่ยยา แม่ไปนากะเห็นกาเขี่ยม้อน ต้อนติแต้นกะนอนอู่ตั๊กแตน ตักแตนโมกะสิโตห้าล้าน ยาดตาปาดกะโตสี่ตำลึง เอ้อ เหอ เออ กะ เหอ เอ้อ เหอ เออ โอนสาลูไขปักตูกะให้อ้ายคำเปะ อ้ายคำเปะกะขี้ม้าแม่หมัน ไปบ่ทันกะมันเตะมันถีบ ขาลีบๆ กะทั้งกีบทั้งเต ขาเป๋ๆ กะเตะลงป่างหง่าง เอ้อ เหอ เออ กะ เหอ เอ้อ เหอ เออ แกนแวนเอยกะเห็นควยเฮาบ่ เห็นละแหม่กะอีตู้ไปก่อน อีด่อนนำหลังกะอีดำนำก้น แขนโค้นไม่ยาง แขนขางไม้บวก ขวกอันนี้กะลีลับลีลับ แมงคับบินกะไจับกกแต้ ตั้งขี้แท้เขาว่าดอกอีลุม จูมจีเขาว่าดอกคัดเค้า นั่งเค้าเม้ากะตาเหลียกหลากลาน เอ้อ เหอ เออ กะ เหอ เอ้อ เหอ เออ
เพลงกล่อมลูกโคราช
นางรำไพ เสริมรำ
เออ... เออ อือม์ แมวขาวเอย ไต่ไม้ราวหางยาวโยนเยิ่น ไต่ไม้เป็นโยนไปโยนมา เออ เอ่อ เออ แม่กาเอย อือม์ แม่กาเหว่า เอาไข่ไปฝากรังเขา แล้วเจ้าก็บินหนีมา เอย... เอย อือม์.... ว่านางแม่พระธรณีเอย... เอย อือม์.... แม่ธรณีเจ้าขา ลูกขอฝากหลานน้อยกลอยตา เอย ให้แม่ช่วยดูแล ด้วยเทอญ เอ่อ เออ...




Last Updated : 12/18/2007 14:21:26

วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552

บทความด้านวิชาการ

เกลือบ้านผือ

ปัจจุบัน สภาพภูมิศาสตร์ถูกทำลายทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของสารอาหาร
ในดินลดน้อยลง รวมทั้งสารไอโอดีน ก็ลดน้อยลงด้วยดังนั้นการบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์
พืช และผลไม้ จึงมีสารไอโอดีนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นักวิทยาศาสตร์
จึงคิดค้น สกัดสารไอโอดีนเสริมลงไปในอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับสารไอโอดีนอย่าง
เพียงพอ จากการคิดค้น พบว่า การเสริมสารไอโอดีนลงในเกลือ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
เนื่องจากเกลือมีรสเค็มสามารถควบคุมการบริโภคได้และการเสริมไอโอดีนลงไปในเกลือ
สะดวกแก่การเก็บรักษา อีกทั้งคุณภาพไอโอดีนไม่เสื่อมสภาพโดยง่าย
ด้วยสารไอโอดีนมีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ทุกคนทุกวัย และต้องได้รับสาร
ไอโอดีนอย่างสม่ำเสมอทุกวันตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนตลอดชีวิต จึงไม่ใช่หน้าที่ของ
ทางราชการหรือเอกชนเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วน รวมทั้งต้องให้ความรู้แก่
ประชาชนอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เพื่อตระหนักถึงพิษภัยร้ายแรงของโรคขาดสารไอโอดีน

โรคขาดสารไอโอดีน

สารไอโอดีนคือ สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายใช้สร้างโฮร์โมนของต่อมไธยรอยด์ไธยรอยด์โฮร์โมน มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร กระตุ้นให้ร่างกายมีการเจริญเติบโตโดยเฉพาะสมอง และ ระบบประสาท ให้มีการพัฒนาที่สมวัยและเต็มศักยภาพ ร่างกายต้องการไอโอดีนในปริมาณเท่าไร ต้องการปริมาณเล็กน้อยแต่จำเป็น ต้องกินทุกวัน(150-200 ไมโครกรัม/วัน หรือ 1ช้อนชา/วัน) หากได้รับไม่พอ การสร้างไธยรอยด์ฮอร์โมน จะลดลง "ทำให้เป็นโรคขาดสารไอโอดีน" โรคขาดสารไอโอดีนมีอาการอย่างไร 1.คอพอก ต่อมไธยรอยด์มีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติถ้าโตมากจะกดหลอดลม ทำให้หายใจลำบาก และกลืนอาหารลำบาก 2.ภาวะไธยรอยด์ฮอร์โมนต่ำผู้ใหญ่ มีอาการเกียจคราน อ่อนเพลีย ง่วงซึม ท้องผูก ผิวหนังแห้ง เสียงแหบ เฉื่อยชา ทนความหนาวเย็นไม่ค่อยได้ เด็ก นอกจากจะมีอาการคล้ายผู้ใหญ่แล้ว ยังพบอาการเชื่องช้าทางจิตใจ และเชาว์ปัญญาต่ำทารกแรกเกิด มีความสำคัญและรุนแรงมากจะมีอาการทางสมองทำให้เกิดภาวะปัญญาอ่อน ไม่สามารถแก้ไขได้ เรียกว่า "โรคเอ๋อ"
เป็นโรคขาดสารไอโอดีนแล้วรักษาอย่างไร ภาวะคอพอกและภาวะไธยรอยด์ฮอร์โมนต่ำ จากการขาดสารไอโอดีน สามารถรักษาได้โดยการรับประทานอาหารทะเลหรือ ใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงอาหารทุกวัน
การป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนทำอย่างไร - บริโภคเกลือเสริมไอโอดีน เลือกซื้อเฉพาะเกลือที่เสริมไอโอดีนโดยตรวจดูจาก ฉลากของเกลือที่เขียนว่า เกลือเสริมไอโอดีน และได้รับรองมาตรฐานจากกรมอนามัย - บริโภคอาหารทะเลเป็นประจำเช่น ปลาทู หอย ปู กุ้ง - บริโรคอาหารที่มีการเติมสารไอโอดีน
ข้อมูลจาก : กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเรียบเรียงโดย : banphusalt.com
กินเกลือป้องกันทารกพิการ
เกลือเกี่ยวข้องกับทารกพิการได้อย่างไร ? ทุกคนรู้ดีว่า เกลือทะเลมีไอโอดีน คุณกินเกลือทุกวัน จึงเชื่อว่าตัวเองได้รับไอโอดีนเพียงพอ แน่นอนแต่คุณรู้ไหมว่า เกลือที่เราคนไทยบริโภคส่วนใหญ่ ในชีวิตประจำวันเป็นเกลือสินเธาว์ ซึ่งไม่มีไอโอดีนคุณอาจไม่ทราบว่า การขาดไอโอดีนในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้เด็กเกิดมาพิกลพิการทางสมอง สติ ปัญญาทึบ ช่วยตนเองไม่ได้ หรือไอคิวต่ำกว่าที่ควร
สำคัญต่อลูกน้อย คอพอก คือ อาการขาดไอโอดีนที่เรารู้จักกันดี แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่า ถ้ามารดาอยู่ในภาวะขาดไอโอดีนขณะตั้งครรภ์ ทารกอาจพิการทั้งทางร่างกาย และสมองขั้นรุนแรง รู้จักในวงการแพทย์ว่า โรคครีตินิซึ่ม (Cretinism) หรือภาวะแคระแกร็นแต่กำเนิด ลูกที่เกิดมาอาจเป็นใบ้ หูหนวก สติปัญญาอ่อนด้อย และมีอาการเกร็งกระตุกของกล้ามเนื้อแขนขา ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ต้องเป็นภาระเลี้ยงดูของครอบครัวและสังคมตลอดไป นอกเหนือกว่านั้น ภาวะขาดไอโอดีนยังมีส่วนสัมพันธ์กับอาการสมองพิการในผู้ป่วย หลายล้านคนทั่วโลก ส่งผลอย่างมากต่อระบบการเรียนรู้และพัฒนาการ กลายเป็นโรค ที่ชาวบ้านเรียก "เอ๋อ" มีการศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า การขาดสารไอโอดีนระดับปานกลางในเด็กเล็ก ส่งผลให้ระดับเชาว์ปัญญาหรือไอคิวลดลง 10-15 จุด เรียกว่า โง่ลง เพราะขาดสารอาหารที่เราเรียนกันมาแต่เด็ก การศึกษาในซาอีร์ พบว่า ถ้าให้ไอโอดีนแก่มารดาขณะตั้งครรภ์ ทารกที่คลอดจะมีน้ำหนักมากขึ้น และมีโอกาสรอดมากกว่าเด็กขาดไอโอดีนถึง 2 เท่าคนไทยขาดไอโอดีนหรือไม่ ? เราสำรวจพบภาวะขาดสารไอโอดีนครั้งแรกในไทย เมื่อปี พ.ศ.2496 พบอัตราป่วย ด้วยโรคคอพอกในภาคเหนือสูงถึงร้อยละ 58เรียกว่าประชากรครึ่งต่อครึ่งขาดสารไอโอดีนกันเลยทีเดียว แล้วอย่างนี้จะหวังให้ประเทศไทย มีอัจฉริยะเกิดได้อย่างไร แค่ให้สมบูรณ์ทางสมองก็จะเอาไม่รอดอยู่แล้ว ! แต่เดิมเราคิดว่า การขาดไอโอดีนเกิดเฉพาะประชาชนที่อยู่ตามยอดดอยไม่มีอาหารทะเลรับประทาน แต่ไม่เป็นความจริงหรอกครับเพราะเมื่อต่อมาได้มีการสำรวจภาวะคอพอกในพื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัด พบอัตราคอพอกเฉลี่ยที่จังหวัดกระบี่ ร้อยละ 14.50 ในบางหมู่บ้านพบอัตราคอพอกสูงถึงร้อยละ 80 !
อาหารเสริมไอโอดีนพบไอโอดีนตามธรรมชาติในเกลือทะเล อาหารทะเล สาหร่ายทะเล แต่ในทางปฏิบัติอาหารทะเลและสาหร่ายทะเล มีราคาแพงจนคนธรรมดาเช้ากินค่ำ ได้แต่มองน้ำลายหก เดือนหนึ่งเผาปูกินสักกิโลก็เท่แล้ว ดังนั้นองค์การอนามัยโลก ธนาคารโลกและยูนิเซฟ จึงได้ร่วมมือกันจัดการรณรงค์ระดับโลก ให้รัฐบาลชาติต่างๆ เติมไอโอดีนลงในเกลือบริโภค ซึ่งหากทำได้จริงๆ โรคที่เป็นอันตรายต่อทารก นำความทุกข์ทรมานสู่มารดาและครอบครัว ก็จะถูกกำจัดไปด้วย แนวคิดที่จะใส่ไอโอดีนในเกลือบริโภคทั่วโลก เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้วนี่เองครับ นับว่าเป็นโชคดีที่กฎหมายไทยเราได้บัญญัติให้มีการเติมไอโอดีนลงในเกลือบริโภค ทั้งนี้เพราะเกลือผงส่วนใหญ่ที่วางขาย หรือเกลือที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารทั้งหลาย ผู้ผลิตนิยมใช้เกลือสินเธาว์ ซึ่งต้นทุนต่ำ แต่ไร้ไอโอดีน ผมเคยเป็นที่ปรึกษาบริษัทผลิตเกลือและอยู่ในวงการเกลือหลายปี พอรู้ว่า ผู้ผลิตหลายรายไม่ยอมเติมไอโอดีนตามกฎหมายกำหนดด้วยเหตุผลมากมาย เช่น ทำให้เกลือชื้น กลิ่นและรสเปลี่ยนไป ยุ่งยากเพราะต้องปรับขั้นตอนการผลิต และบางรายเติมไอโอดีนจริง แต่พอตั้งขายได้ระยะหนึ่ง ไอโอดีนก็สูญสลายระเหยหายไปหมด
ดังนั้น เลือกซื้อเกลือทั้งที ดูให้ดีว่าเป็นเกลือทะเล หรือไม่ก็อ่านฉลาก เอาที่เขียนว่า " เสริมไอโอดีน " ไว้ก่อน เพื่อสุขภาพของทารกในครรภ์ และเด็กๆ ทั้งหลาย แต่ก็ยังหวั่นๆ เหมือนกันว่า ไอ้ที่เขียนว่าเสริมไอโอดีนนั้นน่ะ เสริมจริงหรือเปล่า ก็คงต้องวิงวอนหน่วยงานอาทิ อาหารและยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกองโภชนาการ ประสานมือกันเก็บเกลือในท้องตลาดตรวจสอบและรายงานให้ประชาชนทราบ ใครไม่ใส่ไอโอดีน นอกจากจับปรับตามกฎหมายแล้วต้องให้พลังผู้บริโภคจัดการครับ งดซื้อให้เจ๊งไปเลย เห็นไหมครับว่า การที่เราใส่ใจเรื่องในชีวิตประจำวัน เช่น เลือกใช้เกลือเสริมไอโอดีน หรือตั้งสำรับอาหารทะเลจำพวกน้ำพริกปลาทู หอยแมลงภู่ลวก ห่อหมกทะเลเหยาะเกลือเสริมไอโอดีน ง่ายๆ อย่างนี้ ส่งผลดีต่อสุขภาพลูกๆ และทุกคนในครอบครัวอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ข้อมูลจาก : นิตยสารใกล้หมอปีที่ 25 ฉบับที่ 2 กุมภาพันธ์ 2544และ : http://www.elib-online.com/doctors3/child_iodine01.htmlเรียบเรียงโดย : banphusalt.com

แนะนำตัว



_________________________________________________________________________
น้ำมะนาว

กิตติยา สกุลแสง อายุ 22 ปี

ที่พักผ่อนหย่อนใจ 51 ม. 1 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี 25140

คติ จงทำวันี้และทุกๆวันให้ดีที่สุด



เบอร์ 0876976615