วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552

บทความด้านวิชาการ

เกลือบ้านผือ

ปัจจุบัน สภาพภูมิศาสตร์ถูกทำลายทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของสารอาหาร
ในดินลดน้อยลง รวมทั้งสารไอโอดีน ก็ลดน้อยลงด้วยดังนั้นการบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์
พืช และผลไม้ จึงมีสารไอโอดีนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นักวิทยาศาสตร์
จึงคิดค้น สกัดสารไอโอดีนเสริมลงไปในอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับสารไอโอดีนอย่าง
เพียงพอ จากการคิดค้น พบว่า การเสริมสารไอโอดีนลงในเกลือ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
เนื่องจากเกลือมีรสเค็มสามารถควบคุมการบริโภคได้และการเสริมไอโอดีนลงไปในเกลือ
สะดวกแก่การเก็บรักษา อีกทั้งคุณภาพไอโอดีนไม่เสื่อมสภาพโดยง่าย
ด้วยสารไอโอดีนมีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ทุกคนทุกวัย และต้องได้รับสาร
ไอโอดีนอย่างสม่ำเสมอทุกวันตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนตลอดชีวิต จึงไม่ใช่หน้าที่ของ
ทางราชการหรือเอกชนเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วน รวมทั้งต้องให้ความรู้แก่
ประชาชนอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เพื่อตระหนักถึงพิษภัยร้ายแรงของโรคขาดสารไอโอดีน

โรคขาดสารไอโอดีน

สารไอโอดีนคือ สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายใช้สร้างโฮร์โมนของต่อมไธยรอยด์ไธยรอยด์โฮร์โมน มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร กระตุ้นให้ร่างกายมีการเจริญเติบโตโดยเฉพาะสมอง และ ระบบประสาท ให้มีการพัฒนาที่สมวัยและเต็มศักยภาพ ร่างกายต้องการไอโอดีนในปริมาณเท่าไร ต้องการปริมาณเล็กน้อยแต่จำเป็น ต้องกินทุกวัน(150-200 ไมโครกรัม/วัน หรือ 1ช้อนชา/วัน) หากได้รับไม่พอ การสร้างไธยรอยด์ฮอร์โมน จะลดลง "ทำให้เป็นโรคขาดสารไอโอดีน" โรคขาดสารไอโอดีนมีอาการอย่างไร 1.คอพอก ต่อมไธยรอยด์มีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติถ้าโตมากจะกดหลอดลม ทำให้หายใจลำบาก และกลืนอาหารลำบาก 2.ภาวะไธยรอยด์ฮอร์โมนต่ำผู้ใหญ่ มีอาการเกียจคราน อ่อนเพลีย ง่วงซึม ท้องผูก ผิวหนังแห้ง เสียงแหบ เฉื่อยชา ทนความหนาวเย็นไม่ค่อยได้ เด็ก นอกจากจะมีอาการคล้ายผู้ใหญ่แล้ว ยังพบอาการเชื่องช้าทางจิตใจ และเชาว์ปัญญาต่ำทารกแรกเกิด มีความสำคัญและรุนแรงมากจะมีอาการทางสมองทำให้เกิดภาวะปัญญาอ่อน ไม่สามารถแก้ไขได้ เรียกว่า "โรคเอ๋อ"
เป็นโรคขาดสารไอโอดีนแล้วรักษาอย่างไร ภาวะคอพอกและภาวะไธยรอยด์ฮอร์โมนต่ำ จากการขาดสารไอโอดีน สามารถรักษาได้โดยการรับประทานอาหารทะเลหรือ ใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงอาหารทุกวัน
การป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนทำอย่างไร - บริโภคเกลือเสริมไอโอดีน เลือกซื้อเฉพาะเกลือที่เสริมไอโอดีนโดยตรวจดูจาก ฉลากของเกลือที่เขียนว่า เกลือเสริมไอโอดีน และได้รับรองมาตรฐานจากกรมอนามัย - บริโภคอาหารทะเลเป็นประจำเช่น ปลาทู หอย ปู กุ้ง - บริโรคอาหารที่มีการเติมสารไอโอดีน
ข้อมูลจาก : กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเรียบเรียงโดย : banphusalt.com
กินเกลือป้องกันทารกพิการ
เกลือเกี่ยวข้องกับทารกพิการได้อย่างไร ? ทุกคนรู้ดีว่า เกลือทะเลมีไอโอดีน คุณกินเกลือทุกวัน จึงเชื่อว่าตัวเองได้รับไอโอดีนเพียงพอ แน่นอนแต่คุณรู้ไหมว่า เกลือที่เราคนไทยบริโภคส่วนใหญ่ ในชีวิตประจำวันเป็นเกลือสินเธาว์ ซึ่งไม่มีไอโอดีนคุณอาจไม่ทราบว่า การขาดไอโอดีนในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้เด็กเกิดมาพิกลพิการทางสมอง สติ ปัญญาทึบ ช่วยตนเองไม่ได้ หรือไอคิวต่ำกว่าที่ควร
สำคัญต่อลูกน้อย คอพอก คือ อาการขาดไอโอดีนที่เรารู้จักกันดี แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่า ถ้ามารดาอยู่ในภาวะขาดไอโอดีนขณะตั้งครรภ์ ทารกอาจพิการทั้งทางร่างกาย และสมองขั้นรุนแรง รู้จักในวงการแพทย์ว่า โรคครีตินิซึ่ม (Cretinism) หรือภาวะแคระแกร็นแต่กำเนิด ลูกที่เกิดมาอาจเป็นใบ้ หูหนวก สติปัญญาอ่อนด้อย และมีอาการเกร็งกระตุกของกล้ามเนื้อแขนขา ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ต้องเป็นภาระเลี้ยงดูของครอบครัวและสังคมตลอดไป นอกเหนือกว่านั้น ภาวะขาดไอโอดีนยังมีส่วนสัมพันธ์กับอาการสมองพิการในผู้ป่วย หลายล้านคนทั่วโลก ส่งผลอย่างมากต่อระบบการเรียนรู้และพัฒนาการ กลายเป็นโรค ที่ชาวบ้านเรียก "เอ๋อ" มีการศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า การขาดสารไอโอดีนระดับปานกลางในเด็กเล็ก ส่งผลให้ระดับเชาว์ปัญญาหรือไอคิวลดลง 10-15 จุด เรียกว่า โง่ลง เพราะขาดสารอาหารที่เราเรียนกันมาแต่เด็ก การศึกษาในซาอีร์ พบว่า ถ้าให้ไอโอดีนแก่มารดาขณะตั้งครรภ์ ทารกที่คลอดจะมีน้ำหนักมากขึ้น และมีโอกาสรอดมากกว่าเด็กขาดไอโอดีนถึง 2 เท่าคนไทยขาดไอโอดีนหรือไม่ ? เราสำรวจพบภาวะขาดสารไอโอดีนครั้งแรกในไทย เมื่อปี พ.ศ.2496 พบอัตราป่วย ด้วยโรคคอพอกในภาคเหนือสูงถึงร้อยละ 58เรียกว่าประชากรครึ่งต่อครึ่งขาดสารไอโอดีนกันเลยทีเดียว แล้วอย่างนี้จะหวังให้ประเทศไทย มีอัจฉริยะเกิดได้อย่างไร แค่ให้สมบูรณ์ทางสมองก็จะเอาไม่รอดอยู่แล้ว ! แต่เดิมเราคิดว่า การขาดไอโอดีนเกิดเฉพาะประชาชนที่อยู่ตามยอดดอยไม่มีอาหารทะเลรับประทาน แต่ไม่เป็นความจริงหรอกครับเพราะเมื่อต่อมาได้มีการสำรวจภาวะคอพอกในพื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัด พบอัตราคอพอกเฉลี่ยที่จังหวัดกระบี่ ร้อยละ 14.50 ในบางหมู่บ้านพบอัตราคอพอกสูงถึงร้อยละ 80 !
อาหารเสริมไอโอดีนพบไอโอดีนตามธรรมชาติในเกลือทะเล อาหารทะเล สาหร่ายทะเล แต่ในทางปฏิบัติอาหารทะเลและสาหร่ายทะเล มีราคาแพงจนคนธรรมดาเช้ากินค่ำ ได้แต่มองน้ำลายหก เดือนหนึ่งเผาปูกินสักกิโลก็เท่แล้ว ดังนั้นองค์การอนามัยโลก ธนาคารโลกและยูนิเซฟ จึงได้ร่วมมือกันจัดการรณรงค์ระดับโลก ให้รัฐบาลชาติต่างๆ เติมไอโอดีนลงในเกลือบริโภค ซึ่งหากทำได้จริงๆ โรคที่เป็นอันตรายต่อทารก นำความทุกข์ทรมานสู่มารดาและครอบครัว ก็จะถูกกำจัดไปด้วย แนวคิดที่จะใส่ไอโอดีนในเกลือบริโภคทั่วโลก เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้วนี่เองครับ นับว่าเป็นโชคดีที่กฎหมายไทยเราได้บัญญัติให้มีการเติมไอโอดีนลงในเกลือบริโภค ทั้งนี้เพราะเกลือผงส่วนใหญ่ที่วางขาย หรือเกลือที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารทั้งหลาย ผู้ผลิตนิยมใช้เกลือสินเธาว์ ซึ่งต้นทุนต่ำ แต่ไร้ไอโอดีน ผมเคยเป็นที่ปรึกษาบริษัทผลิตเกลือและอยู่ในวงการเกลือหลายปี พอรู้ว่า ผู้ผลิตหลายรายไม่ยอมเติมไอโอดีนตามกฎหมายกำหนดด้วยเหตุผลมากมาย เช่น ทำให้เกลือชื้น กลิ่นและรสเปลี่ยนไป ยุ่งยากเพราะต้องปรับขั้นตอนการผลิต และบางรายเติมไอโอดีนจริง แต่พอตั้งขายได้ระยะหนึ่ง ไอโอดีนก็สูญสลายระเหยหายไปหมด
ดังนั้น เลือกซื้อเกลือทั้งที ดูให้ดีว่าเป็นเกลือทะเล หรือไม่ก็อ่านฉลาก เอาที่เขียนว่า " เสริมไอโอดีน " ไว้ก่อน เพื่อสุขภาพของทารกในครรภ์ และเด็กๆ ทั้งหลาย แต่ก็ยังหวั่นๆ เหมือนกันว่า ไอ้ที่เขียนว่าเสริมไอโอดีนนั้นน่ะ เสริมจริงหรือเปล่า ก็คงต้องวิงวอนหน่วยงานอาทิ อาหารและยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกองโภชนาการ ประสานมือกันเก็บเกลือในท้องตลาดตรวจสอบและรายงานให้ประชาชนทราบ ใครไม่ใส่ไอโอดีน นอกจากจับปรับตามกฎหมายแล้วต้องให้พลังผู้บริโภคจัดการครับ งดซื้อให้เจ๊งไปเลย เห็นไหมครับว่า การที่เราใส่ใจเรื่องในชีวิตประจำวัน เช่น เลือกใช้เกลือเสริมไอโอดีน หรือตั้งสำรับอาหารทะเลจำพวกน้ำพริกปลาทู หอยแมลงภู่ลวก ห่อหมกทะเลเหยาะเกลือเสริมไอโอดีน ง่ายๆ อย่างนี้ ส่งผลดีต่อสุขภาพลูกๆ และทุกคนในครอบครัวอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ข้อมูลจาก : นิตยสารใกล้หมอปีที่ 25 ฉบับที่ 2 กุมภาพันธ์ 2544และ : http://www.elib-online.com/doctors3/child_iodine01.htmlเรียบเรียงโดย : banphusalt.com

5 ความคิดเห็น: